MENU
MENU
หน้าหลัก
๙ สถานที่สำคัญ
๖ โซนของวัด
การเยี่ยมชม
หนังสือนำเที่ยว: The Vessel of Light
ตารางเวลาและระเบียบปฏิบัติ
เกี่ยวกับวัด
ประวัติและกิจกรรมประจำปี
ภาพพิธีกรรม
งานสมโภชน์มกุฏพันธนเจดีย์
งานทอดกฐินประจำปี
23 ตุลาคม 2564
21 ตุลาคม 2565
งานอายุวัฒนมงคล 79 ปี
งานพิธีพระราชทานพัดยศ
พิธีวันสงกรานต์ 2565
จิตอาสาพระราชทาน
พิธีหล่อพระกริ่งพรหมวัชรินทร์
งานฉลองอายุศม์ธรรม ครบ 80 ปี
พิธีอุปสมบทหมู่ถวายเป็นพระกุศล
พิธีมอบรางวัลโครงการประกวดเรียงความประจำปี 2566
ธรรมยาตรา
ปฏิทิน 2023
คลังธรรมะ
เสียงเทศนาพระพรหมวชิรากร
บทสวดมนต์
บทความธรรมะ
พุทธสาวก
ปัญหาของผู้สงบ
วิดีโอธรรมะ
คลังธรรมสมเด็จพระมหาวีรวงศ์
หนังสือธรรมะพระพรหมวชิรากร
ร่วมทำบุญ
ไทย
English
ไทย
โซนที่ ๔
บันไดพญานาค
ระหว่างบันไดขึ้นลงสู่เจดีย์ศรีพุทธคยา ซึ่งเป็น highlight สำคัญของวัด ประกอบด้วยสถานที่น่าสนใจ ๔ แห่ง
สถานที่ปรินิพพาน
เป็นอาคารจำลองสถานที่ปรินิพพานของพระพุทธองค์ อาคารนี้ตั้งอยู่ทางด้านซ้ายของบันไดพญานาค ตัวอาคารประกอบด้วยห้องโถงสองห้อง ห้องโถงด้านนอกประดิษฐานพระพุทธเจ้าปางปรินิพพาน กว้าง ๑.๒ เมตร ยาว ๒.๑๐ เมตร แกะสลักอย่างวิจิตรงดงามจากหินหยกขาว ห้องโถงด้านในของอาคารประดิษฐานรูปหล่อของบูรพาจารย์ผู้เป็นที่เคารพของพระพรหมวชิรากร (ประธานผู้ก่อสร้างวัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ ในพระองค์ ฯ)
บันไดพญานาค
บันไดพญานาคมีทั้งหมด ๑๙๙ ขั้น วัดระยะทางได้ทั้งสิ้น ๑๗๐ เมตร ราวบันไดทั้งสองข้างเป็นลำตัวของพญานาคเพศชายและเพศหญิง ปั้นตามแบบศิลปะอินเดียที่งดงามจำนวน ๔ คู่ หรือ ๘ ตัว นาคแต่ละตัวถือวัตถุมงคลอย่างละประการแตกต่างกันไป
ได้แก่ สังข์ ตะขอช้าง ตระบอง จักร อุณาโลม ธงสามชาย โคอุสุภราช และหม้อน้ำ เสมือนเหล่าพญานาคมาคอยต้อนรับผู้มาสักการะพระบรมสารีริกธาตุ ณ เจดีย์ศรีพุทธคยา บนภูเขาโพธิสัตว์ นอกเหนือจากนี้บันไดยังประกอบด้วยสัญลักษณ์ของสิบสองราศีที่วิจิตรงดงามด้วย
วิหารพระอุปคุตเข้าออกมงคล
หลังจากเดินขึ้นบันไดนาคไปประมาณครึ่งทาง จะมาถึงวิหารขนาดย่อมกลางสระน้ำเล็ก ๆ ท่านจะเห็นองค์พระ ๒ องค์นั่งหันหลังชนกัน รูปปั้นนั้นคือพระอุปคุตซึ่งเป็นพระอรหันต์ในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช พระอุปคุตมีบทบาทสำคัญในสมัยพระเจ้าอโศก
หลังจากพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพาน พระอรหันต์อุปคุตได้ปราบพญามารผู้มาขัดขวางพิธีสมโภชพระบรมสารีริกธาตุที่พระเจ้าอโศกทรงได้รวบรวมขึ้นจากทั่วสารทิศ พระพรหมวชิรากร (ประธานสงฆ์ผู้ก่อสร้างวัด) ได้สร้างพระอุปคุตขึ้นเพื่อคุ้มครองสาธุชนผู้ที่จะผ่านไปมาให้เป็นมงคล พระอุปคุตจะช่วยขจัดอุปสรรค ให้ท่านทั้งหลายแคล้วคลาดจากภัยอันตร
เสาอโศก
เสาอโศกเป็นจุดพักชมวิว ซึ่งอยู่ถัดมาจากวิหารพระอุปคุต เป็นเสาหินทรายสูง ๙ เมตร ตัวฐานสูง ๒ เมตร ความยาวและความกว้างของฐานคือ ๑x๑.๕ เมตร ตัวฐานทั้ง ๔ ด้าน เป็นงานปฏิมากรรมภาพพุทธประวัติ ยอดเสาประกอบด้วยสิงห์โต และหน้าสิงห์ที่มองออกไปยังทิศทั้ง ๔ พุทธศิลป์ทั้งหมดนี้เป็นงานศิลปกรรมของอาจารย์พิชัย นิรมาน (ผู้ประดิษฐ์โมเดลช้างเอราวัณ ๓ เศียร ที่ตั้งอยู่จังหวัดสมุทรปราการ)
เสาอโศก สร้างขึ้นเพื่อย้อนรอยประวัติที่พระเจ้าอโศกมหาราชได้เคยปฏิบัติมา หลังจากพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานแล้ว พระเจ้าอโศกมหาราชทรงฟื้นฟูศาสนาด้วยการสร้างเสาหินตามสังเวชนียสถานต่าง ๆ ที่มีความสำคัญครั้งเมื่อพระพุทธเจ้ายังดำรงพระชนม์ชีพ ได้แก่ สถานที่ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน เสาหินเหล่านั้นไม่เพียงแต่แสดงสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนาสำหรับชาวพุทธ แต่ยังเป็นอนุสรณ์สถานแห่งธรรมะ เพื่อแสดงให้เห็นว่าพระพุทธศาสนาได้เจริญในสถานที่นั้น ๆ
สถานที่ปรินิพพาน
เป็นอาคารจำลองสถานที่ปรินิพพานของพระพุทธองค์ อาคารนี้ตั้งอยู่ทางด้านซ้ายของบันไดพญานาค ตัวอาคารประกอบด้วยห้องโถงสองห้อง ห้องโถงด้านนอกประดิษฐานพระพุทธเจ้าปางปรินิพพาน กว้าง ๑.๒ เมตร ยาว ๒.๑๐ เมตร แกะสลักอย่างวิจิตรงดงามจากหินหยกขาว ห้องโถงด้านในของอาคารประดิษฐานรูปหล่อของบูรพาจารย์ผู้เป็นที่เคารพของพระพรหมวชิรากร (ประธานผู้ก่อสร้างวัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ ในพระองค์ ฯ)
บันไดพญานาค
บันไดพญานาคมีทั้งหมด ๑๙๙ ขั้น วัดระยะทางได้ทั้งสิ้น ๑๗๐ เมตร ราวบันไดทั้งสองข้างเป็นลำตัวของพญานาคเพศชายและเพศหญิง ปั้นตามแบบศิลปะอินเดียที่งดงามจำนวน ๔ คู่ หรือ ๘ ตัว นาคแต่ละตัวถือวัตถุมงคลอย่างละประการแตกต่างกันไป
ได้แก่ สังข์ ตะขอช้าง ตระบอง จักร อุณาโลม ธงสามชาย โคอุสุภราช และหม้อน้ำ เสมือนเหล่าพญานาคมาคอยต้อนรับผู้มาสักการะพระบรมสารีริกธาตุ ณ เจดีย์ศรีพุทธคยา บนภูเขาโพธิสัตว์ นอกเหนือจากนี้บันไดยังประกอบด้วยสัญลักษณ์ของสิบสองราศีที่วิจิตรงดงามด้วย
วิหารพระอุปคุตเข้าออกมงคล
หลังจากเดินขึ้นบันไดนาคไปประมาณครึ่งทาง จะมาถึงวิหารขนาดย่อมกลางสระน้ำเล็ก ๆ ท่านจะเห็นองค์พระ ๒ องค์นั่งหันหลังชนกัน รูปปั้นนั้นคือพระอุปคุตซึ่งเป็นพระอรหันต์ในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช พระอุปคุตมีบทบาทสำคัญในสมัยพระเจ้าอโศก
หลังจากพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพาน พระอรหันต์อุปคุตได้ปราบพญามารผู้มาขัดขวางพิธีสมโภชพระบรมสารีริกธาตุที่พระเจ้าอโศกทรงได้รวบรวมขึ้นจากทั่วสารทิศ พระพรหมวชิรากร (ประธานสงฆ์ผู้ก่อสร้างวัด) ได้สร้างพระอุปคุตขึ้นเพื่อคุ้มครองสาธุชนผู้ที่จะผ่านไปมาให้เป็นมงคล พระอุปคุตจะช่วยขจัดอุปสรรค ให้ท่านทั้งหลายแคล้วคลาดจากภัยอันตร
เสาอโศก
เสาอโศกเป็นจุดพักชมวิว ซึ่งอยู่ถัดมาจากวิหารพระอุปคุต เป็นเสาหินทรายสูง ๙ เมตร ตัวฐานสูง ๒ เมตร ความยาวและความกว้างของฐานคือ ๑x๑.๕ เมตร ตัวฐานทั้ง ๔ ด้าน เป็นงานปฏิมากรรมภาพพุทธประวัติ ยอดเสาประกอบด้วยสิงห์โต และหน้าสิงห์ที่มองออกไปยังทิศทั้ง ๔ พุทธศิลป์ทั้งหมดนี้เป็นงานศิลปกรรมของอาจารย์พิชัย นิรมาน (ผู้ประดิษฐ์โมเดลช้างเอราวัณ ๓ เศียร ที่ตั้งอยู่จังหวัดสมุทรปราการ)
เสาอโศก สร้างขึ้นเพื่อย้อนรอยประวัติที่พระเจ้าอโศกมหาราชได้เคยปฏิบัติมา หลังจากพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานแล้ว พระเจ้าอโศกมหาราชทรงฟื้นฟูศาสนาด้วยการสร้างเสาหินตามสังเวชนียสถานต่าง ๆ ที่มีความสำคัญครั้งเมื่อพระพุทธเจ้ายังดำรงพระชนม์ชีพ ได้แก่ สถานที่ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน เสาหินเหล่านั้นไม่เพียงแต่แสดงสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนาสำหรับชาวพุทธ แต่ยังเป็นอนุสรณ์สถานแห่งธรรมะ เพื่อแสดงให้เห็นว่าพระพุทธศาสนาได้เจริญในสถานที่นั้น ๆ
Copyrighted Siri Wattana Wisut Forest Monastery of Her Royal Highness
|
Theme
Quail